เที่่ยวภูเขา ที่เที่ยวภูเขาที่สูงที่สุดในประเทศไทยที่ถือว่าเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญของเชียงใหม่
เที่่ยวภูเขา ใครที่กำลังมองหา ที่เที่ยวยอดนิยม ที่เป็นที่เที่ยวทางธรรมชาติ เราขอแนะนำที่เที่ยวแห่งนี้ ที่ได้รับความสนใจจาก นักท่องเที่ยวชาวไทยและต่างชาติ นั่นก็คือ อุทยานแห่งชาติ ดอยอินทนนท์ หรือที่รู้จักกันในชื่อ ดอยอินทนนท์ ซึ่งถือว่าเป็นยอดเขาที่สูงที่สุด ในประเทศไทยเลยก็ว่าได้
และยังเป็นแลนด์มาร์คที่สำคัญ ของจังหวัดเชียงใหม่อีกด้วย และยังเป็น สถานที่ท่องเที่ยวยอดฮิด ของภาคเหนือเลยของไทย ด้วยความเป็นธรรมชาติที่ ยังมีความอุดมสมบูรณ์ และมีความสวยงามอย่างมาก ทำให้ ดอยอินทนนท์ ได้ถูกประกาศให้เป็น อุทยานแห่งชาติ
โดยเป็นอุทยานแห่งชาติ ในลำดับที่ 6 ของไทย ซึ่งมีพื้นที่ทั้งหมด 482.4 ตารางกิโลเมตร แต่เดิมดอยอินทนนท์แห่งนี้ จะมีชื่อว่าดอยหลวง หรือ ดอยอ่างกา ในการเดินทางไปท่องเที่ยว จะเดินทางจากตัวเมือง จะมีระยะทางประมาณ 106 กิโลเมตร วึ่งจะเป็นเส้นทางลาดยาง
แต่จะค่อยข้างมีความสูงชัน โดยที่ในบริเวณรอบๆของอุทยาน ก็จะมีแหล่งท่องเที่ยวมากมาย ที่จะประกอบไปด้วยน้ำตก อีกหลายๆแห่งอีกทั้งยังเป็น เส้นทางในการศึกษา ในเรื่องของธรรมชาติ ไม่ว่าจะเป็น น้ำตกแม่กลาง น้ำตกแม่ยะ น้ำตกวชิรธาร หรือเส้นทางในการศึกษา ธรรมชาติกิ่วแม่ปาน
เส้นทางศึกษาธรรมชาติ อ่างกา ที่น่าสนใจเป็นอย่างมาก และในช่วงฤดูหนาวของทุกปี จะมีนักท่องเที่ยวจำนวนมาก ที่หลั่งไหลกันไปไม่ขาดสาย และสามารถทีองเที่ยวได้ ตลอดทั้งปีอีกด้วย
เที่่ยวธรรมชาติ เที่่ยวภูเขา เที่ยวภูเขาทางเหนือตอนล่าง แหล่งชมทะเลหมอกที่สวยที่สุด สถานที่พักตากอากาศ
ที่เที่ยวติดอันดับโลก ที่นักท่องเที่ยวทั่วโลก นิยมไปกันเป็นจำนวนมาก นั่นก็คือที่เที่ยวแห่งนี้ เขาค้อ จังหวัดเพชรบูรณ์ จะเป็นอำเภอที่อยู่บนภูเขา และเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่ น่าสนใจเป็นอย่างมาก ด้วยอากาศของที่นี่ จะเย็นสบายตลอดทั้งปี แม้แต่ในฤดูร้อนก็ตาม ทำให้มีสถานที่ท่องเที่ยว จำนวนมาก
ให้ได้พักผ่อน ซึ่งยอดเขาค้อนั้นจะเป็นที่ตั้ง ของอนุสรณ์สถานผู้เสียสละ โดยมีความสูง 1,174 เมตร ทำให้มีสภาพอากาศ บนเขาค้อค่อนข้างเย็น แถมยังเย็นจัดในช่วงฤดูหนาว โดยมีทัศนียภาพที่สวยงาม ถือว่าเป็น ที่เที่ยวชมทะเลหมอก ที่สวยมากเป็นอย่างมาก และอยู่ไม่ไกลจากกรุงเทพ
นักท่องเที่ยวส่วนมาก นิยมไปชมทะเลหมอก ที่อยู่บนเขาค้อโดยที่ จะอยู่บริเวณเหนืออ่างเก็บน้ำรัตนัย ทำให้นักทีองเที่ยวสามารถ ชมวิวทะเลหมอกได้สะดวก เพราะเป็นบริเวณที่กว้างขวาง และยังมีจุดสำหรับกางเต็นท์ ที่รองรับนักท่องเที่ยวที่ ชื่นชอบในการกางเต้น ได้เป็นจำนวนมาก
หรือใครที่ไม่ชอบกางเต้น ก็ยังพักแรมของราชการ และรีสอร์ทของเอกชน ที่มีอยู่เป็นจำนวนมาก เพื่อรองรับนักท่องเที่ยว ที่มาพักผ่อนสถานที่แห่งนี้ ซึ่งทะเลหมอกนั้นส่วนใหญ่ จะเกิดในชาวฤดูฝน และฤดูหนาว ถ้าหากในวันที่อากาศ ที่มีความชื้นสูงหรือวันที่ มีอากาศที่หนาวเย็น
ก็จะสามารถชมทะเลหมอกได้ แต่จะต้องเป็นวันที่ไม่มีลมแรง แต่วันที่มีลมแรง ก็ไม่มีทะเลหมอกให้เราเห็น ก่อนที่จะเดินทางไปเที่ยว ก็ควรเช็คสภาพอากาศก่อน เพื่อที่จะไม่ให้พลาด ความสวยงามของที่เที่ยวนี้ ที่มีอากาศเย็นสดชื่น และน่าหลงไหลเป็นอย่างมาก
เที่่ยวภูเขา เที่ยวภูเขาในจังหวัดชัยภูมิ หล่งท่องเที่ยวสำหรับคนรักธรรมชาติ เที่่ยวทะเล
ทึ่เที่ยวแนะนำ สำหรับท่านที่ชื่นชอบธรรมชาติ จะต้องไม่ควรพลาดหับ ผาหำหด หลายคนรู้จักกันอย่างดี โดยตั้งอยู่ในอุทยานแห่งชาติ ไทรทอง ของจังหวัดชัยภูมิ ที่นี่เป็นที่เที่ยวที่สำคํบ ทางธรรมชาติที่สวยงาม ของจังหวัดชัยภูมิ ส่วนใหญ่นักท่องเที่ยวที่ ต้องการมาทดสอบความเสียว
และความแข็งแกร่งของ กล้ามเนื้อขาเนื่องจาก จะมีจุดสำหรับนักท่องเที่ยว ในการเดินไปที่ผาแห่งนี้ ซึ่งจะเป็นเส้นทางเดินทาง ในการศึกษาทางธรรมชาติ โดยมีระยะทางประมาณ 5 กิโลเมตร และยังสามารถเดินไปเรื่อยๆ และจะได้พบกับทุ่งดอกกระเจียว ที่มีความสวยงามอย่างมาก
และในบริเวณผาหำหด ก็จะมีชะง่อนผายื่นออกไป โดยที่นักท่องเที่ยวสามารถ ไปยืนถ่ายรูปกันได้ ไม่กว่าใครที่มาเที่ยวผ่าแห่งนี้ ก็ต้องไปถ่านรูปในจุดนี้ ถ้าหากว่สไม่ได้ไปถ่ายรูป ก็เหมือนกับว่ายังมาไม่ถึง แต่ก็ต้องมีความระมัดระวัง ไม่อย่างนั้นอาจจะตกลงไปได้ ถ้าหากได้ไปท่องเที่ยว ในช่วงที่มีอุณหภูมิที่พอดี
ก็จะสามารถมองเห็นทะเลหมอก ที่จะปกคลุมทั่วพื้นที่ ซึ่งต้องบอกก่อนเลยว่า จะมีความสวยงามอย่างมาก เหมือนภาพฝันเลยก็ว่าได้ ขอแนะนำให้นักท่องเที่ยว ให้มาเห็นด้วยตาตัวเอง และใรส่วนของการเดินทาง ไปเที่ยวที่ผาหำหดแห่งนี้ จะอยู่ห่างจากตัวเมืองชัยภูมิ
โดยใช้ทางหลวงหมายเลข 225 ระยะทางประมาณ 70 กิโลเมตร และจะจากไปที่ทำการอุทยานแห่งชาติ ไปอีก 7 กิโลเมตร หากท่านใดมีโอกาส ในการไปเที่ยวที่ชัยภูมิ ให้แวะไปที่ผาหำหดแห่งนี้ รับรองว่าเป็นที่เที่ยว ที่สวยงามมากในภาคอีสาน กับการชมทะเลหมอก ที่ทุกคนจะต้องประทับใจ
เที่ยวยอดเขาที่สูงที่สุดในจังหวัดเพชรบูรณ์ที่เป็นแหล่งท่องเที่ยวยอดนิยม
คงไม่มีใครไม่รู้จัก ที่เที่ยวมีชื่อเสียง ที่อยู่ในจังหวัดเพชรบูรณ์ นั่นก็คือที่เที่ยวแห่งนี้ ภูทับเบิก ซึ่งเป็นยอดเขาที่มีความสูง ที่สุดในจังหวัดเพชรบูรณ์ โดยมีความสูงถึง 1,768 ด้วยความสูงจึงทำให้ มีอากาศที่เย็นสดชื่น ตลอดทั้งปีเลยทีเดียว โดยจะมีกะหล่ำปลีที่ล้อมรอบ อาณาเขตของภูเขาบริเวณนี้
ถ้าหากว่าใครที่จะมาเที่ยว บ้านของกะหล่ำปลีจะสามารถ เดินทางมาได้แค่ 2 ช่วงเท่านั้น นั่นก็คือในช่วงกลางเดือนพฤษภาคม ไปจนถึงเกือนกรกฎาคม และช่วงเดือนตุลาคม ไปจนถึงกลางเดือนธันวาคม นักท่องเที่ยวส่วนมาก จะนิยมมากันในฤดูหนาว เพราะจะมีความสวยงามมาก
ที่จะได้พบทะเลหมอก จุดดด่นของภูทับเบิกนั่น ก็คือในช่วงหน้าฝน ที่จะมีหมอกตลอดทั้งวัน และอาจได้เจอกับทะเลหมอก ที่สวยงามเป็นอย่างมาก และอากาศของข้างบน ก็จะค่อนข้างเย็นตลอดวัน และใครขึ้นมาเที่ยวนั้น จะต้องพกเสื้อแขนยาวมาด้วย แต่ถ้าเป็นฤดูหนาว ก็จะได้พบกับทะเลหมอก
และอากาศมีความสดชื่น บวกกับต้นกะหล่ำปลีสีเขียว ที่หาได้จากที่ใดไม่ได้ ต้องมาที่แห่งนี้เท่านั้น ในส่วนไฮไลท์ของภูทับเบิก ก็จะอยู่ที่ดาวบนดิน โดยการกางเต้นท์รับลมหนาว ในช่วงเวลากลางคืนจะได้พบกับ ดาวบนดินที่สวยงามยิ่งนัก ที่ยากเกินจะอธิบาย แนะนำให้มาดูด้วยตัวเอง
รับรองว่าท่านต้องติดใจ และด้วยความสูง 1,447 เมตรนั้น ทำให้ในช่วงเวลากลางคืน ก็จะได้พบกับแสงไฟ โดยจะจากหมู่บ้าน และเรียงรายไปทั่วบริเวณ ที่เหมือนกับแสงดาวที่ ใครเห็นก็ต้องหลงรัก
ภูเขาที่ยังคงอนุรักษ์ไว้ทั้งธรรมชาติที่มีความสมบูรณ์ของจังหวัดกาญจนบุรี
ใครที่มีความชื่นชอบ ที่เทึ่ยวธรรมชาติ จะต้องไม่พลาดที่แห่งนึ้ อุทยานแห่งชาติทองผาภูมิ โดยอุทยานแห่งนี้นั้นเป็น อุทยานที่ได้มีอนุรักษ์ ธรรมชาติที่มีสมบูรณ์ และสัตว์ป่าจำนวนมาก โดยสถานที่แห่งนี้นั้น เป็นผืนป่าที่ติดกับป่า ของประเทศพม่า และถือว่าเป็นที่นิยมอย่างมาก ของนักท่องเที่ยวทั่งโลก
โดยมีพื้นที่กว้างถึง 1,236 ตารางกิโลเมตร ไม่ว่าใครที่มาเที่ยวที่นี่ ต่างก็ต้องหลงไหลไปตามๆกัน ไม่ว่าจะเป็นป่าเขา น้ำตก ทะเลหมอก และทุกอย่างขอลที่นี่ ที่เป็นธรรมชาติที่สมบูรณ์ ที่น่าสนใจเป็นอย่างมาก ถ้าหากได้ตั้งแคมป์ หรือนอนที่เต็นท์ ถ้าหากว่สได้ตื่นแต่เช้า
ก็จะได้พบกับทะเลหมอก ที่สวยงามจนน้าหลงไหล และได้สัมผัสอากาศเย็น และยังมีที่เที่ยวมากมาย ไม่ว่าจะเป็นเส้นทาง ในกทรศึกษาธรรมชาติ เขาช้างเผือก ที่มีความท้าทายอย่างมาก ด้วยระยะทางในการชมธรรมชาติ ที่จะต้องเดินเท้า 7 กิโลเมตร เพื่อไปพิชิตยอดเขาช้างเผือก
ถ้าหากเที่ยวอุทยานแห่งชาติ ก็จะต้องนึกถึงน้ำตก ที่มีหลายที่น่าสนใจ ไม่ว่าจะเป็น น้ำตกจ๊อกกระดิ่น เป็นน้ำตกที่มีความสวยงาม ซึ่งน้ำตกจ๊อกกระดิ่นใหญ่ จะเป็นน้ำตกที่มีชั้นเดียว โดลจะลงจากหน้าผา ที่สูง 50 เมตร ที่เหมาะกับการเล่นน้ำตก หรือนั่งชมธรรมชาติ ที่ทีความอุดมสมบูรณ์ กับทึ่เที่ยวแห่งนี้